Sergio Harper

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ การคุ้มครองของประกันสุขภาพ

ว่ากันด้วยเรื่องของการ “คุ้มครองต่างๆ ” ของประกันนั้น ก็จะแตกต่างกันออกไปตามแบบแผนที่เราได้เลือกตามสัญญาข้อตกลงนั้นๆ ซึ่งหากเราไม่ทราบถึงข้อมูลการคุ้มครองก็ควรที่จะศึกษาเอาไว้ให้ดีกันนะครับ แต่วันนี้เราจะมากล่าวข้อมูลคร่าวๆ เพื่อให้ทุกๆ ท่านได้ “ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ การคุ้มครองของประกันสุขภาพ” กันครับ จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น…เราไปชมกันดีกว่าครับ การคุ้มครองของประกันสุขภาพ ►คุ้มครองสุขภาพผู้ป่วยใน (IPD) ให้ความคุ้มครองสุขภาพในกรณีที่ผู้ป่วยมีความจำเป็นต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลเวชกรรมติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง โดยจะต้องได้รับการวินิจฉัย และคำแนะนำจากแพทย์ นอกจากนี้ยังรวมถึงในกรณีที่ทางโรงพยาบาลได้รับตัวผู้ป่วยหรือผู้เอาประกันไว้ในฐานะผู้ป่วยใน แต่เสียชีวิตลงภายใน 6 ชั่วโมงด้วย ซึ่งการทำประกันสุขภาพแบบผู้ป่วยในจะมอบความคุ้มครองครอบคลุมในเรื่องของค่าใช้จ่ายทั่วไป เช่น ค่าปรึกษาแพทย์ ค่าห้องพัก ค่าอาหาร ค่ารถพยาบาล ค่าบริการทั่วไป ค่าใช้จ่ายในกรณีที่มีการรักษาพยาบาลหรือผ่าตัดฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่ประกันสุขภาพแบบผู้ป่วยในหรือ IPD จะเหมาะสำหรับการทำประกันสุขภาพเด็กและการทำประกันสุขภาพผู้สูงอายุ เพื่อคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่มีโอกาสที่จะเจ็บป่วยได้ง่ายกว่าวัยอื่น ๆ ►คุ้มครองสุขภาพผู้ป่วยนอก (OPD) ให้ความคุ้มครองสุขภาพในกรณีที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลเวชกรรม โดยที่ไม่ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือสามารถเดินทางกลับบ้านได้เลย ซึ่งปัญหาสุขภาพส่วนใหญ่จะมีอาการที่ไม่รุนแรง หรือไม่จำเป็นต้องเฝ้าสังเกตุอาการอย่างใกล้ชิด เช่น การเป็นไข้หวัด ปวดหัวเล็กน้อย หรืออาการแพ้ต่าง […]

ประกันแบบไหนที่ควรเลี่ยง

ทุกๆ การตัดสินใจของเรานั้น เป็นก้าวสำคัญในชีวิตเกือบทั้งสิ้น ถึงแม้เราอาจจะมองไม่ไกลแต่ถ้าเราวางแผนได้ดีก็ย่อมที่จะเซฟในทุกๆ เรื่องเลยหล่ะครับ เช่นเดียวกับการเลือกประกันที่เหมาะสมกับเราและ “ประกันแบบไหนที่ควรเลี่ยง” ด้วยเช่นกัน วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกันครับ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “ประกัน” “การประกัน (Life Insurance)” หมายถึง การที่บุคคลผู้หนึ่งเรียกว่า “ผู้เอาประกันภัย” ได้จ่ายเงินจำนวนหนึ่งเรียกว่า “เบี้ยประกันภัย” ตามจำนวนที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ให้กับบริษัทประกันชีวิต เพื่อซื้อความคุ้มครองการเสียชีวิต ครอบคลุมไปถึงการสูญเสียอวัยวะ การทุพพลภาพ การบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย ภายในเวลาที่กำหนด หรือมีอายุยืนยาวจนครบกำหนดตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ โดยสามารถแบ่งออกเป็นข้อๆ สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องอันได้แก่… 1.  ผู้รับประกันภัย คือบริษัทประกันชีวิต ซึ่งหมายถึงบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้ประกอบธุรกิจประกันชีวิต เพื่อรับประกันต่อความสูญเสียหรือความเสียหายต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคล โดยสัญญาว่าจะจ่ายชดเชยให้แก่ผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับผลประโยชน์เมื่อมีการเสียชีวิต และอาจมีความคุ้มครองอื่น ๆ เช่น การประกันอุบัติเหตุและสูญเสียอวัยวะ การประกันกรณีทุพพลภาพ หรือการประกันสุขภาพ (ดูรายชื่อบริษัท) 2.  ผู้เอาประกันภัย คือบุคคลที่ตกลงทำสัญญาประกันภัยกับบริษัทฯ โดยอาศัยสาเหตุของการมีชีวิตหรือการตายเป็นเงื่อนไขในการจ่ายเงินประกันชีวิต 3.  ผู้รับประโยชน์ คือบุคคลที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันชีวิตว่าจะเป็นผู้รับเงินประกันชีวิตตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาหากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต หลักการเลือกประกันภัยที่เหมาะสมกับเรา ●พิจารณารายได้ การทำประกันนั้นอาจถือเป็นหนึ่งในการออมทางเลือกที่หลายคนให้ความไว้วางใจ ที่นอกจากจะเป็นการเก็บเงินก้อนแล้ว ยังเป็นการรองรับความเสี่ยงที่ดีอีกด้วย แต่ทว่าหลายคนก็เลือกจะทำประกันที่มีวงเงินสูง ทำให้ต้องจ่ายเบื้ยประกันสูงตาม […]

แนวทางการวางแผนจ่ายเบี้ยประกัน

ว่ากันด้วยเรื่องของการวางแผนนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ย่อมเป็นผลที่ดีกว่าการไม่เตรียมตัวอะไรเลยถูกต้องมั้ยครับ เช่นเดียวกับการ “วางแผนจ่ายเบี้ยประกัน” ซึ่งบางท่านอาจจะมีสภาพคล่องทางการเงินที่แตกต่างกันตามช่วงและอาชีพ วันนี้เราเลยอยากจะมาพาทุกๆ ท่านไปหา “แนวทางการวางแผนจ่ายเบี้ยประกัน” กันสักหน่อยครับ จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น…เราไปดูกันเล้ยย!! เบี้ยประกันเป็นอย่างไรและคิดอย่างไร? เบี้ยประกันภัย คือจำนวนเงินที่บุคคล หรือ องค์กร ต้องจ่ายให้กับผู้รับประกันภัยตามรายละเอียดกรมธรรม์ โดยทั่วไปแล้ว เบี้ยประกันต้องจ่ายให้กับบริษัทประกันเพื่อรับความคุ้มครองต่าง ๆ ภายใต้เงื่อนไขที่ระบุไว้ และหากมีการผิดนัดชำระเบี้ยก็จะมีผลให้กรมธรรม์ถูกยกเลิก และไม่คุ้มครองอีกต่อไป 3 แนวทาง วางแผนจ่ายเบี้ยประกัน ►วางแผนทำหรือต่อประกันภัยในเดือนที่ไม่ตรงกับรายจ่ายก้อนใหญ่อื่นๆ เลือกทำประกันภัยโดยกระจายภาระของแต่ละเดือนออกไป เช่น ค่าเทอมบุตรหลาน, ค่าเบี้ยประกันภัยชนิดอื่นๆ (ในกรณีที่ทำประกันภัยไว้หลายกรมธรรม์) เพื่อลดภาระการจ่าย หรือเลือกทำช่วงที่จะมีรายได้ก้อนใหญ่เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน ►ผ่อนจ่ายค่าเบี้ยประกันผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ สำหรับผู้ที่มีบัตรเครดิตที่ร่วมรายการของบริษัทประกัน สามารถเลือกผ่อนจ่ายเพื่อช่วยลดภาระการจ่ายเบี้ยประกันรายปีก้อนใหญ่ลงได้ ►แบ่งออมเงินเป็นประจำและเลือกแผนการจ่ายเป็นแบบรายเดือน การที่เราออมเงินด้วยตัวเองเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอทุกๆ เดือน เพื่อสะสมเงินไว้จ่ายเป็นค่าเบี้ยรายปี ช่วยลดภาระในการจ่ายเบี้ยก้อนใหญ่ ประกันสุขภาพและประกันชีวิตนั้นเหมาะกับใครบ้าง? ●ผู้ประกอบอาชีพอิสระ สำหรับเหล่า Freelance หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระทั้งหลายที่ไม่มีหลักประกันอะไร เป็นอะไรขึ้นมาก็ต้องควักจ่ายเอง อีกทั้งยังทำให้เสียรายได้ในช่วงที่พักรักษาตัว หากมีประกันสุขภาพติดไว้ก็สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาตัว หรืออาจเพิ่มความคุ้มครองเงินชดเชยการขาดรายได้กรณีที่ครอบคลุมไปถึงประกันสุขภาพชดเชยรายได้ ทำให้ประกันสุขภาพจึงตอบโจทย์สำหรับคนกลุ่มนี้มากๆ ●ผู้ที่วางแผนเข้าสู่วัยเกษียณ หากพูดถึงอายุที่มากขึ้น สิ่งที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือปัญหาสุขภาพ ประกันสุขภาพจึงนับเป็นตัวช่วยที่ดีเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นจำนวนมากถ้าเกิดจากอาการเจ็บป่วย […]

วิธีการเลือกประกันสุขภาพที่ดี

การดูแลตนเองที่ดีที่สุดก็คือ “การวางแผน” ถูกมั้ยครับ หากเราสามารถทำได้ตามแผนก็จะทำให้เราไม่ประสบปัญหาทั้งด้านสุขภาพและการเงินอีกด้วยครับ แต่ถ้าเราเลือกประกันสุขภาพได้ไม่เหมาะก็จะทำให้เราเสียเงินเปล่าๆ ก็เป็นได้เช่นกันครับ วันนี้เราเลยอยากจะพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “วิธีการเลือกประกันสุขภาพที่ดี” ที่สามารถใช้ในการตัดสินใจด้านต่างๆ กันได้แบบคร่าวๆ ครับ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราไปดูกันดีกว่าครับ วิธีเลือกประกันสุขภาพที่ดี ●เลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมและครอบคลุม ความคุ้มครองที่สูงจะมาพร้อมกับค่าเบี้ยประกันภัยที่สูง ดังนั้น การทำงบประมาณรายรับรายจ่าย เพื่อประมาณการค่าเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสมกับการโอนความเสี่ยง ●การคุ้มครองประกันสุขภาพ ผู้ป่วยใน : ค่าห้อง ค่าผ่าตัด ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ค่ารักษาพยาบาลอุบัติเหตุฉุกเฉิน มีการคุ้มครองเป็นแบบวงเงินต่อครั้งต่อโรคและวงเงินต่อปี ผู้ป่วยนอก : มีจำนวนเงินต่อครั้ง และระบุจำนวนครั้งสูงสุดในรอบปีกรมธรรม์ ค่าทดแทน : หากไม่ได้มีการเบิกสินไหมค่ารักษาพยาบาลจากกรมธรรม์ เนื่องจากใช้สิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือประกันสังคม กรมธรรม์จะจ่ายค่าชดเชยการนอนโรงพยาบาลให้ตามสัญญาประกันภัย ●ต้องรู้เงื่อนไขของการรับประกันในด้านต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็น… –           ระยะเวลาการรับประกัน ในสัญญากรมธรรม์จะมีการระบุการรับประกัน เช่น จนถึงอายุ 70, 80, 85 หรือตลอดชีพ […]

ประกันสุขภาพสามารถลดหย่อนภาษีได้อย่างไร?

ว่ากันด้วยเรื่องของการดูแลสุขภาพของเรานั้น เป็นอะไรที่ต้องดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งหากดูแลไม่ดีไม่ระวังตัวก็จะทำให้สุขภาพเสียและสุดท้ายก็เสียเงินมากมายนั้นเอง ดังนั้น “การทำประกันสุขภาพ” จึงถือเป็นการตอบโจทย์สำหรับเราทุกๆ คนเป็นอย่างมากนั้นเองครับ แต่นอกจากเรื่องของดูแลเราเองแล้วนั้น ท่านทราบกันหรือไม่ครับ “สามารถช่วยในการลดหย่อนภาษี” ได้อีกด้วยครับ วันนี้เราเลยอยากจะพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “ประกันสุขภาพสามารถลดหย่อนภาษีได้อย่างไร” กันครับ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราไปหาคำตอบพร้อมๆ กันเล้ยย!! ทำความรู้จักกับประกันสุขภาพ ประกันสุขภาพ คือ ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองด้านค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ให้แก่ผู้เอาประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นอาการป่วยเล็กน้อยที่ไปหาหมอแล้วรับยากลับบ้าน หรือเจ็บป่วยหนักจนต้องนอนรักษาในโรงพยาบาลเป็นเวลานานอย่างไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก ตลอดจนโรคร้ายแรงต่างๆ แต่สำหรับใครที่มีข้อสงสัยว่าแล้วประกันสุขภาพคุ้มครองโรคอะไรบ้างนั้น ต้องบอกว่าความคุ้มครองจะขึ้นอยู่กับหลักประกันสุขภาพในแต่ละแผน กล่าวคือ แผนประกันสุขภาพบางแผนอาจคุ้มครองโรคเฉพาะ แต่บางแผนอาจคุ้มครองมากกว่า 1 โรค เป็นต้น  โดยประกันสุขภาพสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่… ●ประกันสุขภาพแบบกลุ่ม ซึ่งสามารถพบได้ในบริษัทหรือองค์กรต่างๆ ที่บริษัทได้ซื้อเอาไว้เพื่อเป็นสวัสดิการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับเจ้าหน้าที่ หรือพนักงานภายในองค์กร ซึ่งอาจจะมีทั้งความคุ้มครองต่ำ หรือความคุ้มครองสูง ขึ้นอยู่กับองค์กรนั้นๆ ●ประกันสุขภาพส่วนบุคคล คือประกันสุขภาพที่ซื้อมาเพื่อคุ้มครองผู้เอาประกันรายเดี่ยว สามารถเลือกและกำหนดได้ตามความต้องการของแต่ละคนให้เหมาะตามความเสี่ยงของคนนั้นๆ ประกันสุขภาพใช้ลดหย่อนภาษีได้อย่างไร? หากเราไม่ป่วย “ประกันสุขภาพคือเงินทิ้งเปล่า” ถ้าไม่เจ็บป่วยก็เท่ากับขาดทุน แต่ความจริงแล้ว ประกันสุขภาพ รวมถึงประกันโควิด-19 […]

อันตรายจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า

ว่ากันด้วยเรื่องของความอันตรายต่างๆ ที่เราทุกคนต่างต้องพบเจอกันอยู่ทุกๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุบัติเหตุก็ดี การใช้ชีวิตประจำวันหรือการทำงานต่างๆ หากไม่มีสติหรือการป้องกันที่เหมาะแล้วนั้น…..ก็ย่อมก่อให้เกิดอันตรายกับเราทั้งสิ้น เช่นเดียวกันกับการบริโภคสิ่งที่ชอบอย่าง “การสูบบุหรี่ไฟฟ้า” เราก็ต้องทราบถึง “อันตรายจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า” ไว้จะเป็นการดีที่สุดครับ เนื้อหาจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น…เราไปชมกันเล้ยยย!! บุหรี่ไฟฟ้าดีจริงหรือไม่? เรียกได้ว่าบุหรี่ธรรมดาและบุหรี่ไฟฟ้านั้นมีความแตกต่างในเรื่องของกลไกและตัวน้ำยาที่มีส่วนผสมที่แตกต่างกัน กลิ่นและรสชาติแปลกแยกเป็นเอกลักษณ์ต่างกัน แต่!!! สิ่งที่มีและเป็นจุดที่ทำให้ทั้งคู่ยังส่งผลเสียต่อร่างกายนั้นก็ “สารนิโคติน” ที่ก่อให้เกิดการเสพติดนั้นเองครับ อีกทั้งหากสูบในปริมาณมากๆ แล้วจะก่อให้อันตรายต่อร่างกายในอนาคตได้ครับ อันตรายจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่คุณต้องคิดดีๆ ก่อนสูบ  – ระบบหลอดเลือดและหัวใจมีปัญหา ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากสารนิโคตินมีฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดในร่างกายตีบและหดตัว ทำให้เลือดที่ต้องไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายมีไม่เพียงพอ ส่งผลให้อวัยวะขาดเลือดและออกซิเจน จึงเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองได้ -ระบบทางเดินหายใจมีปัญหา ขึ้นชื่อว่าสูบบุหรี่ ไม่ว่าจะเป็นแบบธรรมดาหรือแบบไฟฟ้าก็ล้วนแล้วแต่ส่งผลเสียต่อปอดของเราทั้งสิ้น เนื่องจากร่างกายของเราจะทำการกรองอากาศเพื่อรับออกซิเจนเข้าสู่กระเลือด หล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย แต่สารเคมีในควันหรือไอของบุหรี่เหล่านี้จะส่งผลทำให้การขนส่งออกซิเจนในเม็ดเลือดแดงเสื่อมถอยลงได้ -ก่อให้เกิดการเสพติดได้ แน่นอนว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีสารนิโคติน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดการเสพติด ดังนั้นการสูบบุหรี่ไฟฟ้าจึงทำให้ผู้สูบ “ติด” ได้ไม่ต่างจากบุหรี่ธรรมดา นอกจากนี้รูปแบบและขั้นตอนในการสูบบุหรี่ไฟฟ้าก็มีความใกล้เคียงกับการสูบบุหรี่ธรรมดามาก ทำให้ผู้สูบยังคงติดในพฤติกรรมการสูบเหมือนบุหรี่ธรรมดา ลด ละ เลิกสูบบุหรี่ไฟฟ้า ดีอย่างไร? เป็นที่ทราบกันดีว่าการสูบบุหรี่ทั้งแบบธรรมดาและแบบไฟฟ้าเป็นประจำสามารถก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพได้หลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ โรคมะเร็งปอดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง รวมไปถึงผลกระทบที่อาจมีต่อบุคลิกภาพได้ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้คนรอบข้างที่ได้สูดดมควันบุหรี่ก็มีผลกระทบต่อสุขภาพด้วยเช่นกัน […]

ข้อแตกต่างระหว่างบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ธรรมดา

หลายๆ ท่านคงคิดสงสัยเกี่ยวกับ “ข้อแตกต่างระหว่างบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ธรรมดา” กันอยู่ใช่มั้ยหล่ะครับ ซึ่งคำถามหรือข้อสงสัยนี้เป็นสิ่งที่ดีและน่าหาคำตอบเป็นอย่างมาก วันนี้เราจึงอยากพาทุกๆ ท่านไปค้นหาคำตอบกันครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น…เราไปชมกันเล้ยย!! บุุหรี่ไฟฟ้าทางออกสำหรับคนอยากเลิกบุหรี่จริงหรือป่าว? ปัจจุบันยัง ไม่มีหลักฐานหรือการศึกษาที่ชัดเจนว่า บุหรี่ไฟฟ้า ช่วยให้เลิกบุหรี่ง่ายขึ้น ตามที่ผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้ากล่าวอ้าง แต่สิ่งที่ประเทศต่าง ๆ ยังห้ามบุหรี่ไฟฟ้า เพราะเห็นวัยรุ่นในอเมริกาที่ไม่เคยสูบบุหรี่ แต่ตอนนี้ติดบุหรี่ไฟฟ้าเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงเป็นปัญหาใหม่ที่ประเทศต่าง ๆ เฝ้าจับตาระวังอย่างใกล้ชิด และยังไม่เปิดให้มีการขายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งในตัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ายังมีปริมาณนิโคตินสูงกว่าบุหรี่มวนทั่วไปมากอีกด้วย ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้เสพติดเช่นเดิม เพียงแต่ปลอดภัยจากมะเร็งเนื่องจากไม่มีการเผาไหม้นั้นเองครับ ความแตกต่างระหว่างบุหรี่ธรรมดาและบุหรี่ไฟฟ้า บุหรี่แบบธรรมดา บุหรี่ไฟฟ้า มีลักษณะเป็นทรงกระบอกม้วนห่อด้วยกระดาษ ขนาดปกติจะมีความยาวสั้นกว่า 120 มิลลิเมตร และขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 10 มิลลิเมตร มีใบยาสูบบดหรือซอยบรรจุภายในห่อกระดาษ ปลายด้านหนึ่งเป็นปลายเปิดสำหรับจุดไฟ และอีกด้านหนึ่งจะมีตัวกรอง ไว้สำหรับใช้ปากสูดควันนั้นเองครับ  ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ทำความร้อน เมื่อน้ำยา (e-liquid หรือ e-juice) ที่ถูกบรรจุใส่ในสำลีสัมผัสเข้ากับขดลวด จึงถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นไอระเหยส่งผ่านนิโคตินไปยังผู้ใช้ ทั้งนี้ จุดเด่นของบุหรี่ไฟฟ้าคือ การตัดการเผาไหม้ ไม่มีควัน ไม่มีขี้เถ้า จึงลดความเสี่ยงจากการรับสารพิษต่างๆ ที่เกิดจากการเผาไหม้ในบุหรี่ธรรมดา เช่น […]

หลักการเลือกน้ำยาและบุหรี่ไฟฟ้าที่ควรรู้

การเลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวเราเองนั้น ย่อมเป็นอะไรที่เหมาะที่ควรมากที่สุดเลยหล่ะครับ เพราะอะไรที่ไม่ดีต่อเราก็ไม่ควรที่จะเลือกมันถูกต้องมั้ยหล่ะครับ เช่นเดียวกับการเลือก “น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า” เราก็ต้องเลือกที่ดี คุ้มราคาและมีความปลอดภัยสูง จึงจะดีที่สุดครับ วันนีเราจะพารู้จัก “ส่วนประกอบของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า” พร้อมกับแนะนำ “หลักการเลือกน้ำยาและบุหรี่ไฟฟ้าที่ควรรู้” ที่น่าสนใจกันครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น…เราไปชมกันเลยดีกว่าครับ ส่วนประกอบของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าส่วนใหญ่มีอะไรบ้าง? ●นิโคติน ส่วนสำคัญของชาวสายควัน เพราะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนหันมาใช้งานบุหรี่ไฟฟ้ากันมากยิ่งขึ้น โดยผู้ผลิตก็จะมีน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ใส่ตัวของนิโคตินในปริมาณที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ไม่ใส่เลย 0% ไปจนถึง 5% หรือ 50 มิลลิกรัมเทียบเท่าบุหรี่จริงเลยก็มี ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่แต่ไม่อยากลาขาดจากนิโคตินสิ่งเหล่านี้ไม่ได้รับการคัดสรรมาเพื่อความปลอดภัยในการสูด  ●โพรพิลีนไกลคอล Propylene glycol, Vegetable glycerin ซึ่งโดยในพื้นฐานของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแล้วนั้น Propylene glycol และ Vegetable glycerin หรือในวงการเรียกกันสั้น ๆ ย่อ ๆ ว่า PG และ VG โดย 2 สิ่งนี้เป็นส่วนประกอบที่สำคัญและแบรนด์ผู้ผลิตน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าก็มักที่จะนำมาแสดงไว้ที่ข้างขวดอยู่เสมอ โดยส่วนประกอบทั้งสองตัวจะมาในอัตราส่วนที่สมดุลกัน เช่น 70/30, 50/50 โดยจะใช้ VG […]

โรคที่อาจเกิดจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้ามากเกินไป

หากว่ากันด้วยเรื่องของการรักษาสุขภาพของคนเรานั้น มีหลากหลายวิธีที่เราสามารถดูแลตนเองได้ครับ ซึ่งหลักแล้วคงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการนอน การกินและการออกกำลังกายนั้นเองครับ ซึ่งหนึ่งสิ่งที่อาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ ได้ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่ดีกว่าสิ่งเก่า ซึ่งที่เราจะกล่าวถึงนั้นก็คือ “บุหรี่ไฟฟ้า” นั้นเองครับ วันนี้เราจึงอยากพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “โรคที่อาจเกิดจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้ามากเกินไป” กันครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น…เราไปชมกันเล้ยย!!! รู้จักกับ “บุหรี่ไฟฟ้า” บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์สูบบุหรี่ชนิดหนึ่ง ซึ่งใช้กลไกไฟฟ้าทำให้เกิดความร้อนและไอน้ำที่ประกอบไปด้วยสารเคมีต่าง ๆ โดยไม่มีควันจากกระบวนการเผาไหม้เหมือนบุหรี่ปกติทั่วไป ประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน คือ แบตเตอรี่  ตัวทำให้เกิดไอและความร้อน (Atomizer) และน้ำยา ถ้ากล่าวถึงเฉพาะส่วนของน้ำยาที่จะถูกทำให้เป็นไอและเข้าสู่ร่างกายของผู้สูบ ควันของบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายหรือไม่?           ควันจากบุหรี่ไฟฟ้ามีนิโคติน เป็นสารที่ทำให้เกิดการเสพติดได้เช่นเดียวกันกับบุหรี่มวน สารนิโคตินนี้ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายน้อยลง ในบุหรี่ไฟฟ้ายังมีสารมีพิษอื่น ๆ ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบของร่างกาย ทำให้เกิดอาการไอ ระคายเคืองปอด เพิ่มความเสี่ยงอาการหอบหืด ควันระเหยของบุหรี่ไฟฟ้ามีขนาดเล็กกว่าบุหรี่มวน  สามารถเข้าไปในปอดส่วนลึกมากกว่า ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้รวดเร็ว อีกทั้งขดลวดโลหะในอุปกรณ์สูบบุหรี่ไฟฟ้าสามารถปล่อยโลหะหนักออกมาได้และการสูบควันในระยะยาวอาจทำให้เกิดความผิดปกติของประสาทสัมผัสรับกลิ่น เมื่อการรับรู้กลิ่นลดลง ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าจึงต้องเลือกน้ำยาที่มีรสชาติเข้มข้นขึ้น ซึ่งอาจยิ่งสร้างความระคายเคือง ทำลายจมูก ปอด และทางเดินหายใจมากยิ่งขึ้น โรคที่อาจเกิดจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่พึ่งระวัง ●โรคหัวใจและหลอดเลือด โอกาสของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า […]

การใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่เหมาะสมต้องทำอย่างไร?

ทุกวันนี้ “บุหรี่ไฟฟ้า” นั้นมีประเด็นที่มีการถกเถียงกันมากมากมาย เนื่องจากมีการประกาศห้ามการนำเข้าและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าโดยรัฐบาล จึงมีผู้ออกมาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย มีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างก็หยิบยกข้อมูลบางด้านมาสนับสนุนกัน แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้เบื้องต้นนั้นก็คือ “การใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่เหมาะสม” ยังไงหล่ะครับ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราไปชมกันดีกว่าครับผม!!! บุหรี่ไฟฟ้า คือ? บุหรี่ไฟฟ้าคือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่งซึ่งใช้แบตเตอรี่ในการทำงานเพื่อสร้างความร้อนและไอน้ำที่ประกอบไปด้วยสารต่าง ๆ เช่น นิโคติน (Nicotine) โพรไพลีนไกลคอล (Propylene Glycol) กลีเซอรีน (Glycerine) สารแต่งกลิ่นและรส (Flavoring) และน้ำ เมื่อเปิดเครื่องจะมีไฟสีแดงขึ้นพร้อมกับการทำงานของแบตเตอรี่ เกิดความร้อนทำให้น้ำยาที่บรรจุอยู่ภายในระเหยขึ้นมาเป็นควัน หลักการทำงานของบุหรี่ไฟฟ้า หลักการทำงานของบุหรี่ไฟฟ้าง่ายๆ คือ เติมน้ำยา =>กดจ่ายไฟฟ้า => ดูดควันไอของน้ำยา ซึ่งจะมีส่วนประกอบสำคัญๆ อันได้แก่… ●ตัวจ่ายไฟ คือ ส่วนที่ทำหน้าที่เก็บไฟฟ้า และจ่ายไฟฟ้าให้กับบุหรี่ไฟฟ้าทุกอย่าง จะแบ่งออกเป็นสองแบบ ก็คือแบบที่เป็นกล่อง โดยจะมีส่วนประกอบหลักในนี้ก็คือ ชิพเซ็ตที่ทำหน้าที่ในการควบคุมการจ่ายไฟ, แบตเตอรี่ ทำหน้าที่ในการเก็บไฟเพื่อจ่ายให้กับขดลวด ●อะตอม (Atomizer) คือ ส่วนที่ทำหน้าที่รับไฟจากแบตเตอรี่ เป็นส่วนที่อยู่บนสุดที่เราใช้ในการดูด และเป็นที่สำหรับเก็บน้ำยาของบุหรี่ […]