ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ การคุ้มครองของประกันสุขภาพ

การคุ้มครองของประกันสุขภาพ

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ การคุ้มครองของประกันสุขภาพ

ว่ากันด้วยเรื่องของการ “คุ้มครองต่างๆ ” ของประกันนั้น ก็จะแตกต่างกันออกไปตามแบบแผนที่เราได้เลือกตามสัญญาข้อตกลงนั้นๆ ซึ่งหากเราไม่ทราบถึงข้อมูลการคุ้มครองก็ควรที่จะศึกษาเอาไว้ให้ดีกันนะครับ แต่วันนี้เราจะมากล่าวข้อมูลคร่าวๆ เพื่อให้ทุกๆ ท่านได้ “ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ การคุ้มครองของประกันสุขภาพ” กันครับ จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น…เราไปชมกันดีกว่าครับ

การคุ้มครองของประกันสุขภาพ

►คุ้มครองสุขภาพผู้ป่วยใน (IPD)

ให้ความคุ้มครองสุขภาพในกรณีที่ผู้ป่วยมีความจำเป็นต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลเวชกรรมติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง โดยจะต้องได้รับการวินิจฉัย และคำแนะนำจากแพทย์ นอกจากนี้ยังรวมถึงในกรณีที่ทางโรงพยาบาลได้รับตัวผู้ป่วยหรือผู้เอาประกันไว้ในฐานะผู้ป่วยใน แต่เสียชีวิตลงภายใน 6 ชั่วโมงด้วย ซึ่งการทำประกันสุขภาพแบบผู้ป่วยในจะมอบความคุ้มครองครอบคลุมในเรื่องของค่าใช้จ่ายทั่วไป เช่น ค่าปรึกษาแพทย์ ค่าห้องพัก ค่าอาหาร ค่ารถพยาบาล ค่าบริการทั่วไป ค่าใช้จ่ายในกรณีที่มีการรักษาพยาบาลหรือผ่าตัดฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่ประกันสุขภาพแบบผู้ป่วยในหรือ IPD จะเหมาะสำหรับการทำประกันสุขภาพเด็กและการทำประกันสุขภาพผู้สูงอายุ เพื่อคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่มีโอกาสที่จะเจ็บป่วยได้ง่ายกว่าวัยอื่น ๆ

►คุ้มครองสุขภาพผู้ป่วยนอก (OPD)

ให้ความคุ้มครองสุขภาพในกรณีที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลเวชกรรม โดยที่ไม่ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือสามารถเดินทางกลับบ้านได้เลย ซึ่งปัญหาสุขภาพส่วนใหญ่จะมีอาการที่ไม่รุนแรง หรือไม่จำเป็นต้องเฝ้าสังเกตุอาการอย่างใกล้ชิด เช่น การเป็นไข้หวัด ปวดหัวเล็กน้อย หรืออาการแพ้ต่าง ๆ ซึ่งการทำประกันสุขภาพแบบผู้ป่วยนอกจะมอบความคุ้มครองในเรื่องค่ารักษาพยาบาล ค่าปรึกษาพบแพทย์ รวมไปถึงค่ายา และเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งประกันสุขภาพนี้จะเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย เนื่องจากสามารถได้รับการรักษาโดยที่ไม่ต้องสำรองจ่าย และไม่ว่าอาการเหล่านั้นจะเจ็บป่วยรุนแรงหรือเล็กน้อยก็ตาม ทำให้เป็นแบบประกันที่นิยมกันอย่างมากในปัจจุบัน

แล้วค่าเบี้ยประกันที่เราต้องจ่าย มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง?

●ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินความคุ้มครอง เพราะแต่ละกรมธรรม์ก็มีรายละเอียดความคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นค่าห้อง ค่าอาหาร และการพยาบาล ค่าห้องไอซียู ค่ารักษาพยาบาลทั่วไป ค่าธรรมเนียมแพทย์ผ่าตัด หรือค่าดูแลโดยแพทย์ ฯลฯ ยิ่งเราเลือกกรมธรรม์ที่มีวงเงินคุ้มครองสูงขึ้นเท่าไหร่ ค่าเบี้ยประกันที่เราต้องจ่ายก็จะมากขึ้นตามไปด้วย

●ขึ้นอยู่กับประวัติทางสุขภาพที่ผ่านมาของคุณ ปกติแล้วการเลือกซื้อประกันสุขภาพทั่วไปนั้น ก่อนที่จะได้รับการอนุมัติความคุ้มครอง เราจะต้องตอบคำถามสุขภาพตามจริงบางข้อ เพื่อให้บริษัทประกันแน่ใจว่าผู้ซื้อมีสุขภาพแข็งแรง ไม่ได้ป่วยเป็นโรคที่ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขความคุ้มครอง หรือหากเราเป็นผู้ที่มีประวัติเจ็บป่วยรุนแรงมาก่อน บริษัทประกันอาจจะมีการแจ้งให้เราทราบว่าค่าเบี้ยประกันที่เราต้องจ่ายนั้น อาจสูงกว่าผู้ที่ไม่มีประวัติเจ็บป่วยใดๆ เพราะมีความเสี่ยงมากกว่านั่นเอง

●ขึ้นอยู่กับอายุของผู้ทำประกัน แน่นอนว่าอายุก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถระบุความเสี่ยงในการเจ็บป่วยได้เหมือนกัน เนื่องจากผู้ที่มีอายุมากก็มีโอกาสเจ็บป่วยได้มากขึ้น รวมถึงอาจมีโอกาสเป็นโรคเรื้อรัง หรือโรคแทรกซ้อนที่ร้ายแรง ที่ต้องใช้เวลารักษาตัวยาวนานกว่าคนที่มีอายุน้อย

●ขึ้นอยู่กับเพศของคุณ จากการสำรวจทางสถิติของ สสส. พบว่า เพศชายจะมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 71 ปี และเพศหญิงจะมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 77 ปี แต่แม้ผู้หญิงจะมีอายุเฉลี่ยยืนยาวกว่าผู้ชาย ทาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ก็ได้ระบุว่า ปกติเพศหญิงจะใช้เวลาฟื้นตัวจากการเจ็บป่วยนานกว่าเพศชาย จึงอาจทำให้มีค่าเบี้ยประกันที่สูงกว่าได้

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “การคุ้มครองของประกันสุขภาพ” ที่มาพร้อมกับข้อมูลการจ่ายเบี้ยประกันที่น่าสนใจที่จะทำให้ทุกๆ ท่านเข้าใจกันมากขึ้น หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านกันนะครับ